สมาธิภาวนา คือ การหายใจด้านใน เธอสามารถสูดรับจิตสำนึกได้เช่นที่เธอสูดอากาศหายใจ เมื่อการหายใจ แห่งจิตสำนึกเริ่มต้นขึ้น เธอย่อมก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่แตกต่าง สู่มิติที่เปลี่ยนไปมันคือส่วนหนึ่งของชีวิต เธออาจจะเข้าวัดเข้าวา หรือโบสถ์ในตอนเช้า แล้วผละออกจากสมาธิเช่นที่เธอก้าวเดินออกจากวัดวาอารามได้ แต่หากเมื่อใดที่เธอชำแรกตัวเข้าไป ในสมาธิภาวนา ไม่ว่าเธอจะไปที่ใดสมาธิก็จะเป็นตัวเธอ และประการต่อมาเธอสามารถหยั่งล่วงรู้สมาธิจากจุดใดก็ได้เพราะสรรพชีวิตล้วนคงอยู่ในห้วงสมาธิอันลุ่มลึก เทือกเขากำลังเพ่งภาวนา ดวงดารากำลังสงบนิ่งดื่มด่ำ มวลมาชี พฤกษา และธาตุทั้งหลายกำลังสงบพินิจ ปฐพีกำลังดิ่งเคลิ้มในภวังค์ สรรพชีวิตล้วนสำรวมแน่วนิ่งในฌาน และเธอก็สามารถหยั่ง ชำแรกเข้าไปจากจุดใดก็ได้ ไม่ว่าสิ่งใดล้วนกลับกลายเป็นทางเข้าได้ วิธีนี้มีผู้ใช้กันมาแล้วนั่นคือ เหตุผลที่ทำไมจึงมีหลายศาสนา หรือในศาสนาเดียวกัน มีวิธีหรืออุบายปฏิบัติ ที่ต่างกันเพราะทางเข้าที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น กวีสามารถ ชำแรกเข้าสู่สมาธิได้โดยไม่ต้องไปหาครูอาจารย์คนไหนๆ ไม่ต้องเข้าวัดเข้าวาใดๆ ไม่ต้องทำตัวธรรมะธัมโม หรือได้ชื่อว่าเคร่งศีลธรรมในรูปแบบใด กวีนิพนธ์ของเขา การรังสรรค์ ของเขาจะกลับกลายเป็นทางเข้าได้ เขาสามารถหยั่งชำแรก ผ่านมันได้ หรือช่างปั้นหม้อที่เพียงแค่ปั้นหม้อดินเผา ก็อาจหยั่งล่วงรู้สมาธิได้โดยการปั้นหม้อดินเผานี่เอง งานฝีมือนี่แหละสามารถเป็นทางเข้าได้ หรือมือธนูก็สามารถบังเกิดสมาธิดื่มด่ำได้ผ่านการยิงธนูของเขา หรือคนสวน หรือใครก็ตามล้วน ชำแรกจากจุดใดก็ได้ สิ่งใดก็ตามที่เธอทำล้วนกลับกลายเป็นทวารได้ทั้งสิ้น
ดังนั้น การกระทำ วิธีอุบาย มรรค วิถี หรือวิธีการ จึงไม่ใช่ประสงค์หลัก ทว่าคุณลักษณ์ของจิตสำนึกที่เธอ น้อมนำสู่การกระทำต่างหากคือสิ่งเบื้องแรก
กบีร์ หนึ่งในรหัสยธารินผู้เลิศล้ำที่สุดท่านหนึ่งของอินเดีย เคยเป็นช่างทอผ้ามาก่อน แม้ในยามบรรลุธรรมแล้ว ท่านก็ยังคงทอผ้าอยู่เช่นเดิม ท่านมีสานุศิษย์มากมายหลายร้อยหลายพันคน คนเหล่านั้นจะแวะเวียนมาแล้วกล่าวกับท่านว่า “หยุดทอผ้า เสียเถิด ท่านไม่ต้องทำแล้วพวกเราจะอยู่ที่นี่คอยปรนนิบัติท่านในทุกวิถีทาง” ท่านกบีร์จะหัวเราะแล้ว กล่าวว่า “การทอผ้านี้มิใช่เพียงการทอผ้า เราทอเสื้อผ้าอาภรณ์ นั่นคือบทบาทภายนอก ทว่าภายในตัวเรามีบางสิ่งดำเนินไป ในขณะเดียวกัน ซึ่งเจ้าไม่อาจแลเห็นได้นี่คือ สมาธิภาวนา ของเรา” ช่างทอผ้าจะกลับกลายเป็นผู้บำเพ็ญภาวนา ด้วยการทอผ้าได้ฉันใดเล่า หากคุณลักษณ์ของจิตที่เธอน้อมเข้าสู่การทอผ้าเป็นสมาธิตั้งมั่นแล้วเมื่อนั้น การกระทำย่อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มันหาใช่ประเด็นไม่
รหัสยธารินอีกผู้หนึ่งเป็นช่างปั้นหม้อ นามของท่านคือโกระท่านผลิตเครื่องปั้นดินเผา และท่านจะร่ายรำพร้อม ขับลำนำไปด้วยในระหว่างปั้นหม้อ ระหว่างที่ท่านประดิษฐ์หม้อบนแป้นหมุน ขณะที่หม้อหมุนวนกลางแป้น ท่านก็จรดเพ่งอยู่ในตัวเองเช่นกัน เราจะเล็งเห็นเฉพาะสิ่งเดียวเท่านั้น คือ แป้นกำลังหมุนวน หม้อดินกำลังก่อรูปก่อร่าง และท่านกำลังปรับศูนย์หม้อดิน เธอแลเห็นเฉพาะศูนย์กลางเดียวอีกศูนย์กลางหนึ่งกำลังบังเกิดขึ้นพร้อมๆกันไป กล่าวคือ ท่านก็เกิดการรวมศูนย์เช่นกัน ระหว่างปรับแต่งหม้อให้ได้ศูนย์ระหว่างประคับประคองหม้อ ให้เป็นรูปร่างท่านก็ประจักษ์ ถึงโลกแห่งจิตสำนึกด้านใน ที่ไม่เคยมีใครแลเห็นเช่นกัน ยามที่หม้อถูกรังสรรค์ขึ้นนั้น หาชิ้นงานที่ท่านได้ทำไม่ ท่านยังรังสรรค์ตัวท่านเองอีกด้วย
การกระทำใดก็ตามล้วนกลายเป็นสมาธิภาวนาได้ และทันทีที่เธอล่วงรู้ว่าการกระทำกลายเป็นสมาธิได้อย่างไร เธอย่อมแปรเปลี่ยนการกระทำทั้งหมดของเธอให้เป็นสมาธิได้ เมื่อนั้นชีวิตทั้งมวลของเธอย่อมกลายเป็นโยคะ ไม่ว่ายามดุ่มเดินบนท้องถนน หรือทำการงานในสำนักงาน หรือเพียงแค่นั่งอยู่โดยไม่กระทำสิ่งใด แค่นั่งนิ่งเฉยไม่มีจุดหมาย หรือสิ่งใด ก็ตามแต่ ล้วนกลับกลายเป็นสมาธิได้
ฉะนั้นสมาธิมิได้ขึ้นอยู่กับการกระทำ มันขึ้นอยู่กับ คุณลักษณ์ที่เธอน้อมเข้าสู่การกระทำต่างหาก
ระหว่างตักน้ำขึ้นจากบ่อ หรือหาบน้ำจากบ่อหากเธอเพียงแค่กระทำบทบาทอันเรียบง่ายนี้เธอก็คือพุทธะฉันนั้นบ่อยครั้งที่มีคนไปหาอาจารย์เซน แล้วเอ่ยถามพวกท่านว่า “ท่านกระทำสิ่งใดบ้าง อะไรคือการบำเพ็ญภาวนาของท่าน”
พวกท่านจะกล่าวว่า “เมื่อรู้สึกง่วง เรานอน เมื่อรู้สึกหิว เรากิน แค่นั้นแหละ” ทว่านี่เป็นเรื่องยากเย็นเหลือแสน มันดูเหมือนง่ายๆไม่ซับซ้อน หากในขณะรับประทาน เธอสามารถเพียงแค่รับประทาน หากในยามนั่ง เธอสามารถเพียงแค่นั่งเฉยๆไม่กระทำสิ่งใดอื่น หากเธอสามารถคงอยู่กับชั่วขณะนี้โดยไม่ขยับหนีจากมัน หากเธอสามารถสลายรวมกับชั่วขณะนี้ โดยไร้ซึ่งอนาคต ไร้ซึ่งอดีต หากปัจจุบันขณะนี้คือ การดำรงอยู่เพียงหนึ่งเดียวแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็คือพุทธะ จิตดวงนี้ นี่แหละจะกลับกลายเป็นพุทธจิต
CR. โอโช่