เวปไซต์นี้มีชื่อว่า japayatriyoga.com
คำว่า Japa และ Yatri คืออะไร ?
ชื่อ japayatriyoga แยกอ่านเป็น Japa = ชาปะ (จะปา) และ Yatri = ยาตรี และ Yoga = โยคะ อ่านรวมกันเป็นภาษาไทย ว่า จะ ปา ยา ตรี โย คะ เนื่องจากพวกเราต้องการใช้คำว่า จะ ปา ในการสะกดแบบไทยเพราะความหมายอีกนัยนึงคือ เป็นตัวย่อของชื่อเราทั้งคู่ คือ เจี๊ยบ (จ) และ ปอนด์ (ป ) ซึ่งทำให้สายวิชาการบางท่านอาจไม่เห็นด้วยในแง่ของการสะกดคำแต่สำหรับเราคำว่า จะปา มีความหมายแฝง จึงมีเจตนาให้สะกดแบบนี้
Japa (ชาปะ) เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง เสียงพูดซ้ำๆ ( repetition ) หรือ เสียงกระซิบ ซึ่งจะใช้เมื่อเราสวดมนตรา (Chanting) หรือ เพื่อร้องเพลงคีตัน (Kirtan)
Yatri เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง นักเดินทาง หรือ ผู้โดยสาร
เมื่อรวมกัน ก็คือ การเดินทางซ้ำๆ เพื่อก้าวสู่เส้นทางของโยคะ
พวกเราจะเดินทางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกๆ วัน ทุกๆ เวลาเพื่อเข้าสู่วิถีแห่งโยคะ
โยคะเป็นทั้งศาตร์และศิลป์ มีส่วนผสมทั้งวิชาศิลปะ ปรัชญา วิทยาศาสตร์ การแพทย์โบราณอินเดีย (อายุรเวท) วิถีการใช้ชีวิตและการดูแลตนเองอย่างครอบคลุม วิชาดนตรี คีตัน (Kirtan) วิชาว่าด้วยการเคลื่อนไหวของร่างกาย ฝึกการหายใจ และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อคุณเริ่มฝึกอาสนะ และ ฝึกปราณายามะ คุณจะได้รับประโยชน์ทั้งระบบกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) การปรับสมดุลภาวะกรด – ด่าง ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายไปจนถึงระบบประสาท เมื่อคุณฝึกอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี จะเกิดความสมดุล การฝึกโยคะไม่ได้เป็นการฝึกแต่ภายนอกเท่านั้น ยังมีโลกภายใน การจัดการกับอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ การจัดการกับความคิด ความสับสน ความเครียด จนกระทั่งเป็นอิสระ ไปจนถึงภาวะสมาธิ
เราตั้งใจทำเวปไซต์นี้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้และเป็นที่รวบรวมผลงานด้านโยคะของเรา (Portfolio) เพื่อที่ท่านจะได้ทำความเข้าใจศาสตร์แห่งโยคะอย่างถูกต้อง เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มจะเคารพร่างกายตัวเองคุณจะฝึกโยคะอย่างฉลาด เพราะถ้าคุณเริ่มเข้าใจตัวเองเมื่อนั้นคุณจะเริ่มต้นค้นหาเส้นทางโยคะของคุณได้ ในที่สุดคุณจะหาเจอ
ถ้าคุณเป็นครูโยคะอาสนะ คุณต้องเรียนรู้ที่จะเคารพร่างกายนักเรียน คุณต้องเปิดกว้าง เป็นแรงกระตุ้น ชี้นำ และส่งเสริมให้นักเรียนของคุณ รักและเคารพร่างกายของเค้า การเคารพร่างกาย จะไม่มีการฝึกที่เกินพอดี (ไม่มากไป ไม่น้อยไป) ไม่มีการฝึกเพื่อกดดัน ทำร้ายตัวเอง หรือเป็นไปเพื่อโอ้อวด แข่งขัน เปรียบเทียบ ( แน่ล่ะ ถ้าคุณฝึกยิมนาสติกเพื่อการแข่งขัน ฝึกเต้น B- Boy เพื่อการประกวด คุณก็มุ่งฝึกสู่ความเป็นเลิศได้ ) แต่นี่คือวิถีแห่งโยคะ วิถีแห่งความพอเพียง ความสมดุล คุณไม่ได้ฝึกโยคะเพื่อสนองความอยาก ความต้องการในจิตใจจนมากเกินไป จนลืมที่จะยอมรับและเข้าใจร่างกายของตนเอง จงอย่าไปให้ความสำคัญเพียงภายนอก อย่าไปฟังเสียงหนอน ที่อยู่ในใจ ของคุณ จนลืมคุณค่าที่สำคัญไป คุณไปได้ลึกกว่านี้ สู่ภายในจิตใจ และอิสรภาพได้ถ้าคุณต้องการ
เมื่อถึงชั่วขณะที่การฝึกดิ่งลึกขึ้นไปในขั้นสูงที่สุด ในระดับนั้น ต่อมาเราจะเริ่มตระหนักรู้ถึงการเคลื่อนไหวของความคิด รู้เท่าทันและกระบวนการทั้งหมดของมันที่ก่อเกิดเป็นเล่ห์เหลี่ยม ความซับซ้อนของอัตตา เมื่อถึงจุดที่การตื่นตัวและตื่นรู้ของสติปัญญาถูกปลุกขึ้นมาเราจะสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ตามความเป็นจริง ที่เราจะได้สัมผัสกับแก่นแท้ของชึวิต ความหมายของการดำรงคงอยู่เมื่อนั้น หลังภาวะสมาธิ เมื่อปัญญาเกิด อัตตาทำอะไรไม่ได้หรอกมันจะกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือ ถ้าคุณเลือกโยคะ ถ้าคุณเลือกฝึกอาสนะ จงอย่าลืมว่าการฝึกอาสนะที่ถูกต้องเป็นการกระทำจากหัวใจไม่ใช่จากสมอง คุณจะเริ่มเรียนรู้ที่จะตระหนักคุณค่าของลมหายใจ คุณจะเรียนรู้กระแสพลังของการฝึกปราณะ (พลังงานที่สั่นสะเทือน แผ่กระจายไปในทุกๆระดับของจักรวาล ) เมื่อนั้นเส้นทางของโยคะ จะส่งคุณไปสู่อิสรภาพสูงสุด
ทางเราจะอัพเดตข้อมูลความรู้ ไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร บางครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลง ผ่านงานวิจัย ผ่านประสบการณ์ของผู้ฝึก ทั้งกุรุจี ครู นักเรียน
เรามาเริ่มต้นเดินทางจากภายนอกเคลื่อนเข้าสู่ภายในด้วยกัน…….จงอย่าหยุดที่จะเรียนรู้ ….นมัสเต…